ส่งฟรี ชาเขียวปี้หลัวชุนยอดอ่อนA 洞庭碧螺春 Bi Luo Chun From Dongting Mountain

Biluochun เป็นชาที่มีชื่อเสียงของจีนดั้งเดิม หนึ่งในสิบชาที่มีชื่อเสียงที่สุดของจีน จัดอยู่ในหมวดหมู่ของชาเขียวที่มีประวัติยาวนานกว่า 1000 ปี Biluochun ผลิตในภูเขา East Dongting และ West Dongting Mountains (ปัจจุบันคือเขต Wuzhong Suzhou) ในทะเลสาบ Taihu Wu County เมืองซูโจว มณฑล Jiangsu ดังนั้นจึงเรียกว่า Dongting Biluochun

ความแตกต่างระหว่าง Longjing และ Biluochun
Biluochun ผลิตในภูเขา Dongting บนพื้นผิวของทะเลสาบ Taihu ไอน้ำเพิ่มขึ้น หมอกที่อ้อยอิ่ง อากาศชื้น ดินมีความเป็นกรดหรือเป็นกรดเล็กน้อย และเนื้อสัมผัสหลวม .
Longjing มีต้นกำเนิดมาจากทะเลสาบตะวันตก Longjing เป็นหนึ่งในสี่ชาที่มีชื่อเสียงในหางโจว ประเทศจีน มีลักษณะเป็น สีเขียว กลิ่นหอม รสหวาน และรูปทรงที่สวยงาม
ลักษณะที่ปรากฏ
สายไฟมีลักษณะเรียว หยิกเป็นเกลียว ขนกระจายไปทั่วร่างกาย สีเงินและสีเขียว ลมพัด ตาชาอ่อนและสมบูรณ์ ไม่มีก้านใบ ไม่มี ขากางเกง ไม่มีใบเหลืองและชิ้นเก่า.
ลักษณะภายใน
มีกลิ่นหอมแรงเป็นพิเศษ กล่าวคือ มีกลิ่นหอมของดอกไม้และผลไม้ แช่น้ำแล้วรสชาติจะสดกลมกล่อม รสที่ค้างอยู่ในคอมีรสหวาน น้ำซุปสีอ่อนและเขียว หน่ออ่อนจะเร็ว ตามีขนาดใหญ่และใบเล็ก

ประสิทธิภาพของ Biluochun　ผลกระทบทางสรีรวิทยาและเภสัชวิทยาของส่วนผสมของชาต่อร่างกายมนุษย์มีความหลากหลาย โดยสรุป มีผลต่อสุขภาพ 8 ประการดังนี้
1. ผลที่น่าตื่นเต้น: คาเฟอีนในชาสามารถกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง ช่วยให้จิตใจสดชื่น ปรับปรุงการคิด ขจัดความเหนื่อยล้า และปรับปรุงประสิทธิภาพ
2. ฤทธิ์ขับปัสสาวะ: คาเฟอีนและธีโอฟิลลีนในชามีฤทธิ์ขับปัสสาวะ และใช้รักษาอาการบวมน้ำและเนื้องอกที่ต่อมน้ำเหลือง การล้างพิษและผลขับปัสสาวะของน้ำเชื่อมชาดำสามารถรักษาโรคตับอักเสบเฉียบพลันได้
3. หัวใจแข็งแรงและฤทธิ์ต้านอาการกระสับกระส่าย: คาเฟอีนมีผลในการเสริมสร้างหัวใจ กล้ามเนื้อเรียบต้านอาการกระสับกระส่ายและผ่อนคลาย บรรเทาอาการหดเกร็งของหลอดลม ส่งเสริมการไหลเวียนโลหิต และเป็นยาเสริมที่ดีสำหรับการรักษาโรคหอบหืด บรรเทาอาการไอและลดเสมหะและกล้ามเนื้อหัวใจตาย .
4. ยับยั้งภาวะหลอดเลือด: โพลีฟีนอลในชาและวิตามินซีในชามีผลในการส่งเสริมการไหลเวียนโลหิตและขจัดภาวะชะงักงันของเลือดเพื่อป้องกันภาวะหลอดเลือด ดังนั้นในกลุ่มคนที่ดื่มชาเป็นประจำ อุบัติการณ์ของความดันโลหิตสูงและโรคหลอดเลือดหัวใจจึงลดลง
5. ฤทธิ์ต้านแบคทีเรียและต้านแบคทีเรีย: โพลีฟีนอลและแทนนินของชาในชาจะออกฤทธิ์ต่อแบคทีเรีย และโปรตีนที่สามารถจับตัวเป็นก้อนของแบคทีเรียฆ่าพวกมัน สามารถใช้รักษาโรคเกี่ยวกับลำไส้ เช่น อหิวาตกโรค ไข้ไทฟอยด์ โรคบิด ลำไส้อักเสบ ฯลฯ ผิวหนังมีอาการเจ็บ เป็นแผล และมีหนอง ผิวหนังแตก ล้างบริเวณที่ได้รับผลกระทบด้วยชาเข้มข้นซึ่งมีฤทธิ์ต้านการอักเสบและฆ่าเชื้อ การอักเสบของปาก แผลพุพอง เจ็บคอ และชาในการรักษา ก็มีผลบางอย่างเช่นกัน
ปิลัวฉุน
ปิลัวฉุน
6. การลดน้ำหนัก: คาเฟอีน อิโนซิทอล กรดโฟลิก กรดแพนโทธีนิก และสารอะโรมาติกในชาสามารถควบคุมการเผาผลาญไขมัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาอูหลงมีผลการสลายตัวที่ดีต่อโปรตีนและไขมัน ชาโพลีฟีนอลและวิตามินซีสามารถลดคอเลสเตอรอลและไขมันในเลือดได้ ดังนั้นการดื่มชาจึงสามารถลดน้ำหนักได้
7. ฤทธิ์ต้านฟันผุ: ชาประกอบด้วยฟลูออรีน และฟลูออไรด์ไอออนมีความสัมพันธ์ที่ดีกับแคลเซียมของฟัน ซึ่งอาจกลายเป็น ฟลูออราพาไทต์ ชนิดหนึ่งซึ่งไม่ละลายในกรดมากกว่า เหมือนกับการเพิ่มชั้นป้องกันให้กับฟัน ของฟันเพื่อต้านทานกรดและฟันผุ
8. การยับยั้งเซลล์มะเร็ง: ตามรายงาน สารฟลาโวนอยด์ในชามีผลต้านมะเร็งในระดับต่างๆ ในหลอดทดลอง ผลกระทบที่แข็งแกร่งกว่าคือไวเทซีน โมริน และคาเทชิน
9. บรรเทาอาการเหน็บชา:
ก่อนนอนทุกคืน ให้รับประทานพริกไทย 10 กรัม บิหลัวชุน 10 กรัม และน้ำส้มสายชู 50 มิลลิลิตร เติมน้ำเดือด 2500 มิลลิลิตร แช่เท้าครั้งละครึ่งชั่วโมง แล้วเช็ดเท้าให้สะอาด ผ้าขนหนู. ให้แช่เท้าทุกคืน และโดยทั่วไปเท้าของนักกีฬาจะบรรเทาลงหลังจากผ่านไป 1 สัปดาห์

วิทีการชงชาหลงจี่ง 冲泡方法
1. ล้างอุปกรณ์ชงชาด้วยน้ำร้อนก่อนใช้งาน
2. เติมใบชาลงไปในกาชงชาประมาณ 1-2 ช้อนชาแล้วแต่ชอบ และให้ลวกด้วยน้ำร้อนทิ้งหนึ่งรอบ （ ปกติจะใช้น้ำอุ่น อุณหภูมิ 75-85 องศา ）
3. เติมน้ำร้อนลงไปในกาชงขา และทิ้งไว้ประมาณ 1-5 นาที ตามชอบ
4. เทน้ำชาออกมาให้หมด และ พักใบชาไว้

**ในการชงชาครั้งต่อไป ควรเพิ่มเวลาในการแช่ใบชาตามชอบ

储存方法 วิธีการเก็บชารักษาเขียวหลงจี่ง
ชาเขียวนี้ควรจะแช่เย็น ตู้แช่แข็งจะดีกว่าตู้ธรรมดา
อุปกรณ์ที่ผลิตจากดีบุกจะดีที่สุด รองมาก็จะเป็นดินเผา
แต่ก็ต้องมีฝาปิดให้สนิท เพื่อไม่ให้อากาศเข้าออก และห้ามวางใกล้กับสิ่งของมีกลิ่น
ไม่ควรตากแดดหรือโดนแอร์โดยตรง เพราะอาจทำให้ชาเสียคุณภาพได้
ไม่ควรเก็บไว้ในที่ชื้น ควรเก็บไว้ในที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก
เมื่อเปิดใช้งานชาในห่อ ควรปิดปากถุงให้แน่นทุกครั้ง
เมื่อต้องการบรรจุชาในประป๋องควรบรรจุห่อชาลงไปด้วย และปิดปากถุงให้สนิท
ไม่ควรบรรจุชาในภาชนะที่มีกลิ่น หรือวางใกล้กับสิ่งของที่มีกลิ่น (ชาสามารถดูดกลิ่นได้)
ไม่ควรใช้มือหยิบจับใบชาโดยตรง ควรใช้ช้อนไม้ตักชา หรือช้อนที่แยกออกมาตักชาโดยเฉพาะ